Strava คืออะไร?

Strava คือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เพื่อติดตามและแชร์กิจกรรมการเล่นกีฬาและออกกำลังกายของผู้ใช้งาน Strava รองรับกีฬาและกิจกรรมหลายประเภท ในช่วงแรก Strava เน้นไปที่การวิ่งและขี่จักรยานเป็นหลักแต่ในปัจจุบัน Strava สนับสนุนกีฬาและกิจกรรมจำนวนมาก

ผู้ใช้สามารถบันทึกและวิเคราะห์รายละเอียดของกิจกรรมที่ตนทำได้ในหลายมิติ เช่น ระยะเวลา ระยะทาง ความเร็ว เส้นทางที่วิ่งหรือขี่จักรยาน รวมไปถึงพลังงานที่ใช้และอัตราการเต้นของหัวใจ และอื่น ๆ หากเป็นกีฬาในร่ม Strava จะเก็บสถิติเวลาเป็นหลัก

ที่สำคัญ Strava ยังเป็นแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้แบ่งปันประวัติและสถิติการออกกำลังกายให้เพื่อนได้รู้และเข้ามาแสดงความชื่นชมได้ ผู้ที่วิ่งหรือขี่จักรยานในเส้นทางเดียวกันยังสามารถเปรียบเทียบความเร็วหรือระยะเวลาเพื่อแข็งขันและจัดลำดับได้อีกด้วย นอกจากนี้ Strava ยังมีระบบสโมสรหรือ Club เพื่อให้ผู้ใช้ที่อยู่ในหน่วยงานเดียวกันหรือมีความสนใจคล้ายกันสามารถเชิญเพื่อนเข้าร่วม Club เดียวกัน และแบ่งปันประวัติและสถิติการออกกำลังกายให้เพื่อนภายใน Club ได้ ผู้จัดการ Club สามารถสร้าง Event เพื่อนัดหมายสมาชิกใน Club มาออกกำลังกายพร้อมกันได้อีกด้วย

 

ทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังได้จัดตั้ง KMITL Sports Club ขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พนักงานและนักศึกษาของสถาบันออกมาเล่นกีฬาและทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพ และเป็นช่องทางการเสริมสร้างสังคมการออกกำลังกายและกีฬาและประชาสัมพันธ์กิจกรรมเกี่ยวกับสุขภาพของสถาบัน

 

วิธีการติดตั้ง

Download แอพ Strava ตามแพลตฟอร์มของท่าน จากลิงค์ด้านล่าง

• iOS: https://apps.apple.com/th/app/strava-run-ride-training/id426826309
• Android: https://play.google.com/store/apps/details?id=com.strava

หมายเหตุ: Strava เป็นแอพพลิเคชั่นแบบ Freemium กล่าวคือฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น การบันทึกกิจกรรมการออกกำลังกาย หรือเข้าร่วม Club สามารถใช้ได้เลยโดยไม่ต้องเสียเงิน ในขณะที่ฟีเจอร์ขั้นสูงอย่างอย่าง เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลการออกกำลังการโดยละเอียดจะต้องเสียค่า Subscription เพิ่ม ซึ่งการเข้าร่วมกิจกรรมกับสจล. ไม่จำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์ที่ต้องเสียเงิน หากแอพแจ้งให้ท่านชำระเงิน Subscribe เพื่อใช้งาน ท่านสามารถกดข้ามไปได้เลย

 

วิธีการสมัครใช้งาน

1) เปิดแอพ Strava

2) เลือกประเภทของบัญชีที่จะลงทะเบียนเข้าใช้งาน ท่านสามารถเปิดบัญชีใหม่ด้วยอีเมลหรือใช้บัญชี Facebook ในการลงทะเบียน ขอแนะนำให้ใช้บัญชี Facebook

หน้า Login ของ Strava บน Android และ iOS        

3) กด Agree and Sigm Up เพื่อตอบรับเงื่อนไขการใช้งาน

4) จากนั้นแอพจะนำเข้าสู่หน้าแรก หากเข้าสู่หน้านี้ได้แล้วหมายความว่าท่านลงทะเบียนสำเร็จและพร้อมที่จะบันทึกกิจกรรมแล้ว

หน้าหลักของ Strava บน Android และ iOS         

 

การใช้งาน Strava

1.ฟีเจอร์หลักของ Strava

• สามารถดู Feed แสดงกิจกรรมของเพื่อน ของตนเอง หรือของสมาชิกใน Club ต่าง ๆ ได้
• สามารถบันทึกกิจกรรมของตนเองได้
• นำเข้ากิจกรรมที่ทำจากระบบหรืออุปกรณ์ Activity Tracker ต่าง ๆ ได้ เช่น Apple Watch, Garmin, Mi Amazfit, Suunto หรือ Wahoo เป็นต้น
• ดูข้อมูลและสถิติการออกกำลังกายของตนเองได้

2.Feed กิจกรรม

Feed กิจกรรมต่าง ๆ ดูได้ที่หน้า Feed ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยการกดที่ปุ่ม Feed ด้านล่างของตัวแอพ

หน้า Feed จะแบ่งออกเป็น 3 Section ได้แก้ Following, You และ Club โดย Following จะแสดงรายการกิจกรรมของเพื่อนหรือคนที่เราติดตามอยู่ ส่วน You จะเป็นหน้าแสดงกิจกรรมของตนเอง และ Club จะแสดงรายการกิจกรรมของ Club ที่เราสังกัดอยู่

ในแต่ละ Feed จะแสดงกิจกรรมต่าง ๆ เรียงลงมาคล้าย Facebook ในแต่ละกิจกรรม เราจะเห็นชื่อเจ้าของกิจกรรม รายละเอียด สถิติเบื้องต้น และเส้นทางหรือภาพกิจกรรม เราสามารถกดเพื่อเข้าไปดูรายอะเอียดของกิจกรรมได้ หรือสามารถกดชื่นชอบ (Kudo) หรือ เขียน Comment ใต้กิจกรรมของเพื่อนได้ และสามารถกดปุ่มแชร์เพื่อแชร์กิจกรรมได้อีกด้วย

3.การสมัครเข้า KMITL Sports Club

1) เลือกเมนู Explore จากนั้นเลือก Club

2) ค้นหา KMITL ในช่อง Find a club…

3) เลือก KMTIL Sports ระบบจะแสดงข้อมูลของสโมสรขึ้นมา

4) กด Request to Join เพื่อขออนุญาตเข้า Club แล้วรอผู้ดูแลสโมสรรับเข้า Club

5) หลังจากผู้ดูแลรับเข้าระบบแล้วจะสามารถเข้าถึง Feed กิจกรรมของสมาชิกใน Club ได้ และกิจกรรมและสถิติของเราจะถูกแสดงใน Club โดยอัตโนมัติ

4.การบันทึกกิจกรรมของตน

แอพ Strava สามารถบันทึกกิจกรรมการออกกำลังการของตนเองได้ โดยกีฬาที่บันทึกใน Strava โดยตรงนั้นจะเป็นกีฬากลางแจ้งที่มีการใช้ GPS บันทึก หากต้องการบันทึกกิจกรรมอื่น ๆ เช่น Fitness ยกน้ำหนัก หรือโยคะ จะต้องกรอกข้อมูลด้วยมือ (Manual) หรือนำเข้าจากอุปกรณ์อื่น นอกจากนี้ท่านยังสามารถบันทึกกิจกรรมย้อนหลังด้วยการกรอกข้อมูลด้วยมือได้ด้วย

ในส่วนนี้เราจะอธิบายถึงการบันทึกกิจกรรมกลางแจ้งโดยแอพ และการกรอกข้อมูลด้วยมือ การนำเข้าข้อมูลจากอุปกรณ์อื่น จะอธิบายในส่วนถัดไป

การนำบันทึกข้อมูลกิจกรรมด้วยแอพ Strava

1) จากหน้า Feed เลือก Record และเลือกประเภทกีฬา

2) เมื่อเลือกเสร็จแล้ว ไอคอนแสดงประเภทกีฬาที่เลือกจะปรากฏขึ้นตรงกลาง

3) กด Start เพื่อเริ่มบันทึกหากมีข้อความแจ้งเตือนให้กด I Accept

4) จากนั้นแอพจะแสดงข้อมูลการออกกำลังกายขึ้นมาและจะเริ่มบันทึกข้อมูลกิจกรรมรวมไปถึงเส้นทางที่ทำกิจกรรม

5) เมื่อต้องการพักหรือทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ให้กดปุ่มหยุดเพื่อหยุดการบันทึก

6) จากนั้นกด Resume หากต้องการบันทึกการทำกิจกรรมต่อ หรือกด Finish หากทำกิจกรรมเสร็จและต้องการบันทึกการทำกิจกรรม

7) หลังจากกด Finish แอพจะสรุปผลการทำกิจกรรมขึ้นมา ท่านสามารถระบุชื่อกิจกรรมที่ทำได้ เช่น วิ่งริมหาด และสามารถใส่ภาพประกอบกิจกรรมได้

8) กด Save Activity เพื่อบันทึกกิจกรรม หลังจากบันทึกแล้วเพื่อนที่ติดตามและสมาชิกใน Club จะเห็นกิจกรรมที่ท่านทำใน Feed และผลรวมการทำกิจกรรมทั้งหมดของท่านจะปรากฏใน Leaderboard ของ Club ทันที

การนำบันทึกข้อมูลกิจกรรมแบบ Manual

1)สำหรับ iOS กดปุ่ม + ทางด้านซ้ายบนของจอ หรือบน Android ให้กดที่ไอคอน + ด้านข้าง

2) เลือก Manual Activity

3) เลือกประเภทกีฬาโดยการกดที่ Sport จากนั้นบันทึกระยะเวลา และวันเวลาที่ทำกิจกรรม หากเป็นกีฬากลางแจ้ง ท่านสามารถบันทึกระยะทางและความเร็วเฉลี่ยได้ด้วย

4) ตั้งชื่อกิจกรรม เช่น โยคะที่บ้าน และใส่ภาพกิจกรรมหากต้องการ

5) กด Save Activity เพื่อบันทึกกิจกรรม

 

การนำเข้ากิจกรรมที่ทำจากระบบหรืออุปกรณ์ Activity Tracker ต่าง ๆ

โดยปกติ เมื่อเราซื้ออุปกรณ์ Activity Tracker ต่าง ๆ เช่น Mi Band, Apple Watch, Garmin, Fitbit หรือ Suunto  มา อุปกรณ์เหล่านั้นจะต้องใช้งานคู่กับแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์เคลื่อนที่เสมอ อุปกรณ์จะเป็นผู้บันทึกรายละเอียดของกิจกรรม เช่น ระยะเวลา วันและเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดกิจกรรม ตลอดจนข้อมูลต่าง ๆ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ  กระแสไฟฟ้าในหัวใจ (EKG) หรือระดับออกซิเจนในเลือก (SpO2) หรือตำแหน่งของผู้ใช้ ซึ่งข้อมูลที่บันทึกได้ จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของตัวอุปกรณ์ เมื่อเสร็จกิจกรรมอุปกรณ์จะต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์เพื่อนำข้อมูลจากอุปกรณ์เข้าสู่แอพ ส่งต่อไปที่แพลตฟอร์มของอุปกรณ์เพื่อบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลกิจกรรม ซึ่งข้อมูลทั้งหมดมักจะถูกเก็บอยู่ในแพลตฟอร์มนั้น ซึ่งไม่สามารถนำมาแชร์หรือเปรียบเทียบกับเพื่อนที่ใช้อุปกรณ์คนละยี่ห้อได้

อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มของอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ สามารถ Synchronize ข้อมูลกิจกรรมเข้ามายัง Strava ได้ โดยการผูกบัญชีผู้ใช้ของแอพนั้น ๆ เข้ากับบัญชีผู้ใช้ Strava หลังจากผูกบัญชีแล้ว เมื่อผู้ใช้ทำกิจกรรมเสร็จ แอพจะส่งข้อมูลขึ้นไปยัง Server ของแพลตฟอร์มของอุปกรณ์และแพลตฟอร์มจะส่งข้อมูลต่อมายัง Strava โดยอัตโนมัติ

 

ขั้นตอนการผู้บัญชีของแพลตฟอร์มต่าง ๆ เข้ากับบัญชี Strava มี สามารถดูได้จากบทความด้านล่าง

• Apple Watch: https://support.strava.com/hc/en-us/articles/115000161184-Strava-Apple-Watch-App
• Garmin Connect: https://support.strava.com/hc/en-us/articles/216918057-Garmin-and-Strava
• FitBit: https://support.strava.com/hc/en-us/articles/216918087-Fitbit-and-Strava
• Suunto: https://support.strava.com/hc/en-us/articles/360018647552-Suunto-App-and-Strava
• Mi Band (Zepp/Amazfit): https://support.strava.com/hc/en-us/articles/115001766144-Amazfit-Pace-and-Strava

Xiaomi เปลี่ยนชื่อแอพจาก Amazfit เป็น Zepp และท่านจะต้อง Pair MiBand เข้ากับโทรศัพท์ผ่านแอพ Mi Fitก่อนแล้วจึงจะสามารถ Pair MiBand เข้ากับ Zepp ได้

 

อุปกรณ์ที่ใช้กับ Strava ไม่ได้

• Huawei Watch ทุกรุ่น